您现在的位置是:热点 >>正文
รมว.ทส.หารือทูตศรีลังกาฯ ประสานความร่วมมือดูแล"พลายประตูผา
热点67人已围观
简介วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย ...
รมวทสหารือทูตศรีลังกาฯประสานความร่วมมือดูแลquotพลายประตูผาtelegram下载
วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ นางเอทิริสิงเห อารัจจิลาเค ศรียานี วิชยันติ เอทิริสิงเห เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือที่เหมาะสมที่สุดกับช้าง 2 เชือก ได้แก่ "พลายประตูผา - พลายศรีณรงค์" ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมให้การต้อนรับ
การหารือครั้งนี้จัดขึ้นตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีฯ ดำเนินการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางดูแลช้างทั้งสองเชือก เนื่องจากช้างทั้งสองมีอายุมากและเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสวัสดิภาพอย่างเร่งด่วน
โดยขณะนี้ ช้างทั้ง 2 เชือก ได้แก่ พลายประตูผา อายุ 51 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2523 อาศัยที่วัดสุธุฮุมโปลลา เมืองแคนดี้ ส่วนพลายศรีณรงค์ อายุ 29 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2544 อาศัยอยุ่ที่วัด Kelaniya เมือง Rattanapura ช้างทั้ง 2 เชือก อยู่ห่างกันระยะทาง 105 กิโลเมตร
ช้างทั้งสองได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทูตสันถวไมตรีทางวัฒนธรรมและศาสนา เชื่อมโยงสายใยแห่งมิตรภาพระหว่างประชาชนไทยและศรีลังกามาอย่างยาวนาน ด้วยการอุทิศร่างกายรับใช้พระพุทธศาสนาด้วยความทุ่มเทและสง่างาม
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานการดำเนินงานอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไทย-ศรีลังกา กว่า 70 ปี ความเคารพต่อประเพณีและวัฒนธรรม รวมทั้งความศรัทธาร่วมกันในพระพุทธศาสนาสวัสดิภาพของช้างที่มีอายุมากและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และความรู้สึกของประชาชนทั้ง 2 ปรเทศ ที่มีความผูกพันลึกซึ้งต่อช้างทั้ง 2 เชือก
"รัฐบาลไทยมีความประสงค์ที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับสู่ประเทศไทย เพื่อให้ได้กลับมาพักผ่อนและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต ณ ถิ่นกำเนิด หลังจากปฏิบัติภารกิจอันทรงเกียรติมาอย่างยาวนาน"
รองนายกรัฐมนตรีฯ แจ้งความประสงค์ในนามของรัฐบาลไทยที่จะเข้าเยี่ยมคารวะท่านอนุระ กุมาระ ทิสานายกะ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ณ กรุงโคลัมโบ ในอนาคตอันใกล้ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับช้างไทย และส่งเสริมความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทยจะมอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ ประสานงานในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
รองนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ช้างถือเป็นสัตว์ที่มีความหมายพิเศษสำหรับทั้งสองประเทศ สำหรับไทยช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง สำหรับศรีลังกาช้างเป็นสัตว์มงคลในพระพุทธศาสนา สะท้อนถึงคุณค่าทางจิตใจ ศาสนา และวัฒนธรรมร่วมกัน
"ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพ ความเคารพ และความเข้าใจอันลึกซึ้ง ฝ่ายไทยมีความมุ่งหวังอย่างยิ่งที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับบ้าน พร้อมทั้งยกระดับความร่วมมือระหว่างไทย-ศรีลังกาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความยินดีที่จะสนับสนุนการส่งเสริมบทบาทของเด็กและเยาวชนในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามข้อมติของศรีลังกาที่ร้องขอให้ไทยร่วมสนับสนุน ในการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 7 ที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคม 2568 ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป เนื่องจากสอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ระดับชาติของไทย ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเยาวชน ทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ ก่อนตอบรับอย่างเป็นทางการ และจะประสานคณะผู้แทนถาวรไทยประจำโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เพื่อแจ้งยืนยันกับรัฐบาลศรีลังกาต่อไป
วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ นางเอทิริสิงเห อารัจจิลาเค ศรียานี วิชยันติ เอทิริสิงเห เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือที่เหมาะสมที่สุดกับช้าง 2 เชือก ได้แก่ "พลายประตูผา - พลายศรีณรงค์" ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมให้การต้อนรับ
การหารือครั้งนี้จัดขึ้นตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีฯ ดำเนินการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางดูแลช้างทั้งสองเชือก เนื่องจากช้างทั้งสองมีอายุมากและเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสวัสดิภาพอย่างเร่งด่วน
โดยขณะนี้ ช้างทั้ง 2 เชือก ได้แก่ พลายประตูผา อายุ 51 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2523 อาศัยที่วัดสุธุฮุมโปลลา เมืองแคนดี้ ส่วนพลายศรีณรงค์ อายุ 29 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2544 อาศัยอยุ่ที่วัด Kelaniya เมือง Rattanapura ช้างทั้ง 2 เชือก อยู่ห่างกันระยะทาง 105 กิโลเมตร
ช้างทั้งสองได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทูตสันถวไมตรีทางวัฒนธรรมและศาสนา เชื่อมโยงสายใยแห่งมิตรภาพระหว่างประชาชนไทยและศรีลังกามาอย่างยาวนาน ด้วยการอุทิศร่างกายรับใช้พระพุทธศาสนาด้วยความทุ่มเทและสง่างาม
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานการดำเนินงานอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไทย-ศรีลังกา กว่า 70 ปี ความเคารพต่อประเพณีและวัฒนธรรม รวมทั้งความศรัทธาร่วมกันในพระพุทธศาสนาสวัสดิภาพของช้างที่มีอายุมากและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และความรู้สึกของประชาชนทั้ง 2 ปรเทศ ที่มีความผูกพันลึกซึ้งต่อช้างทั้ง 2 เชือก
"รัฐบาลไทยมีความประสงค์ที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับสู่ประเทศไทย เพื่อให้ได้กลับมาพักผ่อนและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต ณ ถิ่นกำเนิด หลังจากปฏิบัติภารกิจอันทรงเกียรติมาอย่างยาวนาน"
รองนายกรัฐมนตรีฯ แจ้งความประสงค์ในนามของรัฐบาลไทยที่จะเข้าเยี่ยมคารวะท่านอนุระ กุมาระ ทิสานายกะ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ณ กรุงโคลัมโบ ในอนาคตอันใกล้ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับช้างไทย และส่งเสริมความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทยจะมอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ ประสานงานในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
รองนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ช้างถือเป็นสัตว์ที่มีความหมายพิเศษสำหรับทั้งสองประเทศ สำหรับไทยช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง สำหรับศรีลังกาช้างเป็นสัตว์มงคลในพระพุทธศาสนา สะท้อนถึงคุณค่าทางจิตใจ ศาสนา และวัฒนธรรมร่วมกัน
"ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพ ความเคารพ และความเข้าใจอันลึกซึ้ง ฝ่ายไทยมีความมุ่งหวังอย่างยิ่งที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับบ้าน พร้อมทั้งยกระดับความร่วมมือระหว่างไทย-ศรีลังกาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความยินดีที่จะสนับสนุนการส่งเสริมบทบาทของเด็กและเยาวชนในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามข้อมติของศรีลังกาที่ร้องขอให้ไทยร่วมสนับสนุน ในการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 7 ที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคม 2568 ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป เนื่องจากสอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ระดับชาติของไทย ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเยาวชน ทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ ก่อนตอบรับอย่างเป็นทางการ และจะประสานคณะผู้แทนถาวรไทยประจำโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เพื่อแจ้งยืนยันกับรัฐบาลศรีลังกาต่อไป
Tags:
转载:欢迎各位朋友分享到网络,但转载请说明文章出处“寒风侵肌网”。http://2893273.telegramur.com/html/34a3299933.html
相关文章
2026幼儿园教学反思(精选30篇)
热点身为一名刚到岗的人民教师,我们要有一流的教学能力,借助教学反思可以快速提升我们的教学能力,那么什么样的教学反思才是好的呢?下面是小编为大家收集关于2026幼儿园教学反思,希望你喜欢。2026幼儿园教学 ...
【热点】
阅读更多TGA 2025颁奖礼提名名单出炉 《33号远征队》获12项提名
热点今日,由加拿大籍游戏媒体人杰夫吉斯利主办并主持的TGA 2025正式拉开帷幕,各项大奖的提名名单已经全部出炉,其中《光与影:33号远征队》成为TGA历史上获得提名最多的游戏,共获12项提名。颁奖典礼将 ...
【热点】
阅读更多《乱世烟雨》(游子组合演唱)的文本歌词及LRC歌词
热点乱世烟雨游子组合www.555uuu.cn ★【歌词网】︿☆乱世烟雨☆︿演唱:游子组合作词:曾杲 作曲:刘继明→断尘音乐QQ:129 9734 652 分享←韩:往事如烟情丝柔断肠奈何红颜退去幔帐已成 ...
【热点】
阅读更多